พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงนำเสนอ
แนวคิดสำหรับงานพัฒนามากมายเพื่อประเทศชาติ
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงพัฒนาแนวคิดของพระองค์ให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ โครงการพัฒนาของพระองค์จึงสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นแต่ละแห่ง แนวคิดของพระองค์นำไปสู่การปฏิบัติจริงจนกลายเป็นทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังโครงการพัฒนาทั้งหมดของพระองค์ โดยเฉพาะพระราชดำริของพระองค์ที่นำไปสู่การพัฒนาโครงการ 2 โครงการในจังหวัดนครนายก นั่นคือ ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติและโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ โครงการพัฒนาตามพระราชดำริ
หนึ่งในโครงการสำคัญของมูลนิธิชัยพัฒนา
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ ที่ผู้มาเยือนจะได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในด้านการพัฒนา การได้เข้ามาลงมือปฏิบัติจริงจะส่งเสริมการเรียนรู้และความเข้าใจของโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับแนวพระราชดำริและทฤษฎีต่างๆ ในด้านการพัฒนาด้านเกษตรกรรม ด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์แหล่งธรรมชาติ
พิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พิพิธภัณฑ์ระบบแสง สี เสียง และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต โดยส่วนแรกได้รับการออกแบบให้เป็นแหล่งรวมแนวพระราชดำริเบื้องหลังโครงการพัฒนาต่างๆ ที่สำคัญ เช่น โครงการฝนหลวง และทฤษฎีใหม่ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ และส่วนหลังได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยแสดงให้เห็นการปฏิบัติจริงตามแนวพระราชดำริ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวพระราชดำริของพระองค์ในโครงการพัฒนาต่างๆ
หลักการและแนวพระราชดำริในโครงการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทางศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาตินำเสนอเพื่อการเรียนรู้ มีดังนี้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ขาดทุนเงินกำไรบุญ
ประชาพิจารณ์
ระเบิดจากข้างใน
วิธีจัดการแบบองค์รวม
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตจะจัดแสดงแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
ป่าเปียกกันฝน
ตรวจดูเขื่อน
ทฤษฎีใหม่
การจัดการแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วม
โครงการแกล้งดิน
โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล
เขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก
- บันทึกเมื่อปี พ.ศ. 2549 -
โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง นครนายก ประกอบด้วยเขื่อนคอนกรีตบดอัดแน่น เขื่อนดินปิดช่องเขาต่ำ และอ่างเก็บน้ำที่มีความจุ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร สันเขื่อนยาว 2,594 เมตรและสูง 93 เมตร และมีอาคารประกอบอื่นๆ รวมทั้ง อาคารผันน้ำ (ระหว่างการก่อสร้าง) อาคารระบายน้ำล้น อาคารระบายน้ำฉุกเฉิน อาคารระบายลำน้ำเดิม และอาคารระบายน้ำคลองชลประทาน
ตัวเขื่อนประกอบด้วยคอนกรีตบดอัดแน่น 4.84 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นเขื่อนที่ใช้วัตถุดิบนี้ปริมาณมากที่สุดในโลก
โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชลมีไว้สามารถจัดสรรน้ำในพื้นที่ชลประทานได้มากถึง 185,000 ไร่ของประชาชนกว่า 9,000 ครัวเรือน มีระบบกักเก็บน้ำได้ปริมาณมหาศาล จึงมีความเสถียรในเรื่องการจัดสรรน้ำ ดังนั้น ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งจึงลดน้อยลง ส่วนปัญหาดินเป็นกรดก็ได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำก็ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่สำคัญอีกด้วย
นอกจากประโยชน์ในแง่ชลประทานแล้ว โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชลยังเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนจังหวัดนครนายกอีกด้วย ผู้มาเยือนจะได้ชื่นชมกับโครงสร้างเขื่อนขนาดใหญ่และสนุกกับกิจกรรมยามพักผ่อนรอบๆ ตัวเขื่อน
ที่นี่ยังเป็นแหล่งหลีกเร้นของนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สามารถจะออกไปท่องป่า เล่นวินด์เซิร์ฟ พายเรือคายัค หรือ ล่องแพในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พิพิธภัณฑ์และศูนย์สันทนาการแห่งนี้ยังพร้อมให้บริการตามความต้องการของแขกผู้มาเยือน